ตกงานในวัย 27 ปี แย่มากไหม เป็นหนี้ จิตตก ซึมเศร้า ชอบเก็บตัว มีวิธีการรับมืออย่างไร

สวัสดีค่ะ วันนี้ขอเล่าปสก. ตกงานของตัวเองในวัย 27 ปี 
ซึ่งก่อนหน้านี้  เราเป็นคนนึง ที่ได้รับการยอมรับในการทำงานดีมาก มีความสามารถ เป็นที่ยอมรับ ของพี่ๆ หัวหน้า 
ซึ่งมันทำให้เราภูมิใจ ในหน้าที่การงานของตัวเองมาก หน้าตาเราก็เป็นคน ดูดี สวยประมาณนึง มั่นใจ มีความสามารถในการกล้าแสดงออก  มากๆค่ะ ทำงานในด้านงานสายบันเทิง การตลาด และอีเวนท์ต่างๆ เราเป็นเด็ก ตจว. มาเรียนกทม. เรียนจบแล้วก็มาทำงานในกทม.เลย 
เราจบสายงานการนิเทศมา มันทำให้เราคิดว่า เราเดินมาทางนี้ถูกแล้ว งานเหนื่อยมากๆ แต่มีความสุขดีค่ะ
     
     จนเข้าสู่ช่วงโควิด ปีที่แล้วค่ะ บ.เริ่มลดคน และทำงานที่บ้านมากขึ้น จะมีคนส่วนน้อย ที่ได้เลือกมาทำงาน และรับเงินเดือนเต็ม และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น  เราเองก็คิดดีใจ เลยทำงานทุ่มเท ตั้งใจ ช่วงโควิดไม่ได้พักเลยค่ะ เป็นการทุ่มเทที่เหนื่อยมาก
  แต่แล่วหลังจาก โควิดเราซวยโดยไม่รู้ตัวค่ะ  บ.แม่มีการปรับเปลี่ยนผัง ทางบ.เสนอให้เราย้ายแผนก จากแผนกเดิม ไปแผนกนึงที่จะทำงานเกี่ยวกับเอกสารทั้งหมด ซึ่งเนื้องาน จะแตกต่าง จากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง โดยเสนอเงินเดือนเพิ่ม จ็อปเกรดให้เรา และคิดในแง่บวกจะได้มีความรู้ใหม่ด้วย ก็ไม่เสียหายที่จะลองอะไรใหม่ๆ ถ้าเกิด 
เพื่อเป็นการตอบแทนบ. เราเลยตกปากรับคำจะย้ายให้ แต่ถึงไม่ย้าย บ.เค้าก็จะเพ่งเล็งเราต่อไป เพราะทางบ.แม่ ที่เป็นสำนักงานเขต ถือว่าต่อให้เราทำงานดีแค่ไหน เค้าก็ไม่ได้สนใจตรงนั้นเลยค่ะ 

เราทดลองงานใหม่ดู ประมาณ 1 เดือน ทำงานเข้ากะใหม่ เลิก21.00 15วัน เวลา ปกติ 15 วัน ช่วงนั้นทรมานมาก ซึ่งต้องทำงานแบบที่เราไม่ได้เอาใจลงไปทำเลยค่ะ ประกอบกับ เป็นเนื้องานที่เราลองแล้ว ไม่ชอบ พี่ที่สอนงานมีเวลาแค่สิบวัน ก็ต้องย้ายสาขา เหมือนเค้าก็รีบจะสอนๆ จะได้รีบย้าย 

ผจก.ใหญ่ที่เป็นคนสั่งย้ายเรา ก็ดูเหมือนจะผิดหวัง ในตัวเรามาก ที่เราตกปากรับคำ แต่ดันมาลาออก ทำให้ บ. เสียระบบการทำงานต้องหาคนใหม่มาแทน เรายกมือไหว้ลา เค้าไม่รับไหว้เราเลยค่ะ แต่เค้าคงไม่สนใจ คนตัวเล็กๆแบบเราเนอะ ออกไป บ.ก็ไม่ล่มเพราะเรา 5555
เรารู้สึกแย่มากที่จับเราย้าย   เพราะเราคิดว่า เราเองก็ทำงานหนัก ทุ่มเท กับงาน งานหน้าที่ระดับหัวหน้า เค้าก็โยนให้เราทำ กลับบ้านดึกๆ เสียสละเวลาส่วนตัว  ทำไมถึงต้องเป็นเรา 

และใจเราตอนนั้นใจเรามันไม่ไปจริงๆค่ะ เราขอลา สาม สี่ วันไปทะเล เพื่อชาร์ตแบตตัวเอง กลับมาก็ทำสัญญา ลงตำแหน่งใหม่ มาเจอว่า  บ.ไม่ได้ขึ้น เงินเดือนให้เราตามที่พูดไว้ด้วยค่ะ เค้าอ้างว่า ดู จ๊อปเกรดให้เราผิด ในใจก็คิดว่าไม่ไหวแล้วจริงๆ

เลยปรึกษาแม่ แฟน ครอบครัวว่าจะลาออก ซึ่งก็ประจวบกับที่พ่อเราโทรบอก อีกสองเดือนจะโอนเงินค่าขายที่มาให้เรา โดยวางแผนไว้ว่า จะนำเงินส่วนที่คุณพ่อ ขายที่ดินได้ (พ่อเราเลิกกับแม่นะคะ แม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว)
มาทำทุนเปิดแฟรนไชน์ น้ำ กับน้องชาย และหางานประจำ ซึ่งตอนนั้นเราเล็งงานไว้ที่ๆนึง และคิดว่า ได้แน่นอน

  แต่ทุกคนคะ ... ในความแน่นอน คือความไม่แน่นอนค่ะ พ่อเราโดนโกง ที่ขายไม่ได้ ทุกอย่างพังมากเลยคะ
เราลาออกแล้ว ...ออกมาแบบไม่มีเงินทุนติดตัว มีแค่เงินเดือนๆสุดท้ายคะ ซึ่งเราก็ใช้หนี้ ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดภายในพริบตา ทีนี้จะทำไรต่อ พ่อเราก็มีครอบครัวใหม่จะไปพึ่งเขามากก็ไม่ได้  เพราะเราด่าแม่ใหม่เราไว้เยอะ บ้านเราก็ฐานะปานกลาง 

 โดยการลาออกครั้งนี้ เราใช้เหตุผล ออกมาทำธุรกิจกับแฟนถึงบ.จะยอมให้ลาออกค่ะ โดยลาออกแบบถูกต้องและมีใบผ่านงานค่ะ 
หัวหน้าเก่าเราอยากให้กลับมาทำตำแหน่งเดิม หน.แผนกเก่าเราดีมากๆเลยค่ะ พยายามจะไปคุย ไปเสนอ ย้ายเรากลับ แต่ก็ไม่เป็นผล
ความรู้สึก ศรัทธาต่อบ. ของเรามันหมดไปตั้งแต่ตอนสั่งย้ายแล้วค่ะ  

    จริงๆไม่ใช่เหตุผลนี้หรอกนะคะ เราแค่อยากออกมาจากตรงนั้นเฉยๆ ออกมาแบบความรู้สึกล้วนๆ ทำตามใจล้วนๆ และตัดสินใจปุปปัป มาก
ตอนนี้เจอใคร เราก็บอก มาทำงานกับแฟน มีธุรกิจ (แฟนเรามีธุกิจจริงๆ แต่เราไม่ได้เข้าไปทำงานค่ะ) ทางบ้านแฟนเราก็ยังไม่รู้ เรายังไม่ได้บอกว่าเราลาออกจากงานแล้ว อารมณ์ประมาณว่า ไม่อยากฝห้ท่านไม่สบายใจ เพราะท่านค่อนข้างหัวโบราณ แบบคนจีนสมัยก่อนที่ค่อยข้างซีเรียสเรื่องความอดทนมากๆ เราไม่อยากโดนถูกมองว่า เราเป็นคนไม่มีงานทำ เกาะลูกเค้ากินไรงี้ แต่จริงๆ ท่านไม่ได้คิดแบบนี้หรอกค่ะ มันอาจจะเป็นสิ่งที่เรารู้สึกคิดไปเองก็ได้ ยอมรับว่าตัวเอง ก็ยังยอมรับชีวิตตัวเองตอนนี้ไม่ได้ค่ะ

ใจจริง เราก็ไม่อยากโกหกเลยค่ะ รู้สึกไม่ดี แต่คิดว่า อีกสองสามอาทิตย์ก็จะบอกแล้วค่ะ แต่งานยังไม่ได้ซักที ลำบากใจเหมือนกันค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่